บล๊อกที่ห้าสิบของฉัน (บล๊อกสุดท้าย) ไปวัดยักชอนซากันเถอะ

สวัสดีค่ะ สำหรับใครที่ชอบเข้าวัดฟังธรรมนะคะ แนะนำวัดนี้เลยค่ะ วัดยักชอนซา

วัดยักช็อนซา (Yakcheonsa Temple)

Yakcheonsa Temple (약천사) หรือ ยักชุนซา (Yakchunsa Temple, 약천사(제주)) ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีน้ำแร่ไหลออกมา จากพื้นดินตลอดทั้งปี ในฝั่งซ็อกวีโพ (Seogwipo) บนเกาะเชจู (Jeju-do, 제주도), ประเทศเกาหลีใต้

วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น โดยมีรูปแบบทางสถาปัตยกรรม ของวัดทางพุทธศาสนา ในสมัยต้นราชวงศ์โชซ็อน บริเวณของวัดครอบคลุมพื้นที่กว่า 3,305 ตารางเมตร ด้วยขนาดของวัดที่ใหญ่และสวยงาม ทำให้วัดแห่งนี้ กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยม ทั้งสำหรับพุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

บริเวณด้านหน้าของพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางสมาธิ ที่มีขนาดความสูง 5 เมตร อยู่บนแท่นสูง 4 เมตร และด้านหน้าของพระอุโบสถ เป็นที่ตั้งของศาลาระฆังขนาดใหญ่ ที่มีน้ำหนักถึง 18 ตัน รวมไปถึงกลองขนาดใหญ่

ภายในพระอุโบสถที่มีความสูงถึง 30 เมตร เป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธรูปที่มีความงดงามถึง 3 องค์ อันเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าใน 3 ช่วงเวลา คือ อดีต, ปัจจุบัน และอนาคต

สำหรับสถานที่อื่นๆ ในบริเวณของวัด จะประกอบไปด้วยธรรมศาลาที่สร้างขึ้นในถ้ำที่เรียกว่า คุลบ็อบดัง (Gulbeopdang, 굴법당), ศาลเจ้าซัมซ็องกัก (Samseonggak, 삼성각), เจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ (Sarira Pagoda, 사리라탑) และสวนไม้ดอกไม้ประดับ ที่สวยงามอยู่เรียงรายรอบวัด

ที่อยู่ 293-28 Ieodo-ro, Daepo-dong, Seogwipo, Jeju-do, South Korea (제주특별자치도 서귀포시 대포동 이어도로 293-28)

ข้อมูลเพิ่มเติม

สายด่วนการท่องเที่ยว 1330: + 82-2-1330 (เกาหลี, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีน)

ติดต่อสอบถาม +82-64-738-5000 (เกาหลี, อังกฤษ)

website: yakchunsa.org (เกาหลี)

เวลาทำการ เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เช้า-เย็น

ค่าเข้าชม ฟรี

การเดินทาง

จาก Jeju International Airport

ขึ้นรถ Airport Limousine Bus No. 600 และลงที่ Yakchunsa Temple, 약천사(제주) จากนั้นเดิน 300 เมตรไปยังวัด

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที เวลารถออกทุกๆ 15 นาที

ที่มา:https://www.jointtravel.com/south-korea-travel-information/yakcheonsa-temple.html/

บล๊อกที่สี่สิบเก้าของฉัน ไปประภาคารซอพจิโกจิกันเถอะ

ไปค่ะ ไปรับลมเย็นๆกันที่ ประภาคารซอพจิโกจิ กันค่ะ

ประภาคารซอพจิโกจิ – Seopjikoji (섭지코지) ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง จะมีทางเดินขึ้นไปยังประภาคารซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามซึ่งสามารถมองเห็นยอดเขา Seongsan Ilchulbong ที่มีลักษณะเหมือนช้าง และมองเห็นชายฝั่งทะเลที่มีทางเดินรายล้อมไปด้วยดอกไม้ โดยเฉพาะในช่วงประมาณเดือนเมษายน ดอกเรปซีดสีเหลืองจะบานสะพรั่งทั่วทั้งบริเวณตัดกับสีท้องฟ้าและน้ำทะเล

นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตในการถ่ายทำหนังและละคร เช่นเรื่อง Gingko Bed, The Uprising, One Thousand and One Nigh.

ที่มา:https://www.chilloutkorea.com/seopjikoji/

บล๊อกที่สี่สิบแปดของฉัน ไปพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเชจูวิลเลจกันเถอะ

สวัสดีค่ะ สำหรับใครที่ชื่นชอบบ้านพื้นเมืองโบราณต้องไม่พลาดที่แห่งนี้ คือพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเชจูวิลเลจ

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเชจูวิลเลจ – Jeju Folk Village Museum (성읍민속마을) เป็นสถานที่ที่รวบรวมบ้านโบราณกว่า 117 หลังจากทั่วเกาะเชจูมาจัดแสดงไว้ให้ได้ชม โดยมีการแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ เช่น บ้านบนภูเขา (Mountain Village), บ้านชาวประมง (Fishing Village ) และหมู่บ้านมองโกล (Shamanism Village)

และภายในบ้านนั้นมีการจำลองเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในสมัยโบราณ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือไม้จำนวน 1,627 ชิ้น, เครื่องเรือนที่ทำจากไม้ไผ่ 1,046 ชิ้น, เครื่องปั้นดินเผา 1,699 ชิ้น, เซรามิค 1,544 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีหุ่นขี้ผึ้งและเครื่องมือเหล็กต่างๆอีก

เมื่อประมาณปี 2006 ได้มีการใช้พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเชจูวิลเลจนี้ในการถ่ายทำซีรีย์เรื่องดัง แดจังกึม episodes 27 to 32 เป็นฉากที่แดจังกึมกำลังเรียนรู้เกี่ยวกับยาต่างๆ ซึ่งบางฉากก็ได้มีการสร้างสถานที่จำลองขึ้น ต่อมาภายหลังจึงได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเพื่อต้องการให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่น่าสนใจของเกาหลี

ที่มา:https://www.chilloutkorea.com/jeju-folk-village-museum/

บล๊อกที่สี่สิบเจ็ดของฉัน ไปถ้ำมันจังกุล กันเถอะ

มันจังกุล..ถ้ำลาวาที่สมบูรณ์ที่สุดบนเกาะเจจู

ถ้ำมันจังกุล (Manjanggul Lava Tube) ถ้ำลาวาที่เป็นผลจากการระเบิดภูเขาไฟ ไม่เพียงส่งผลต่อลักษณะทั่วไปบนเกาะเจจู ทำให้เกิดพืชพรรณที่หาไม่ได้บนเกาหลีส่วนใหญ่ แต่ยังก่อให้เกิดภูมิประเทศอย่างหนึ่งที่โดดเด่น อย่างถ้ำลาวา ที่แม้ภายนอกจะดูคล้ายถ้ำทั่วไป แต่พื้นผิวภายในไม่เหมือนกันแน่นอน

Cr. Korea.net

ถ้ำลาวามันจังกุล เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินเข้าไปชมได้ราว 800 เมตร แถมที่นี่ยังเป็นหนึ่งในถ้ำลาวาที่มีสภาพสมบูรณ์ติดอันดับโลก การเกิดของถ้ำลาวา ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ คงประมาณว่า มีลาวาจำนวนมากไหลออกมจาภูเขาไฟ แล้วไหลเข้าไปในที่แคบอย่างสนุกสนาน สักพักลาวาสูง ๆ ที่ไหลอยู่ก็เกิดเย็นตัวลง ส่วนที่กำลังโค้งตัวระหว่างที่กำลังไหลก็เลยก่อตัวเป็นผนังถ้ำ ซึ่งเมื่อคนรุ่นหลังอย่างเราไปมองใกล้ ๆ ก็จะเห็นเป็นลายคลื่นเล็ก ๆ คล้ายมีคนเอาแปรงไปลูบผนังปูนท่ำลังเปียกตลอดระยะ มองดูแล้วก็คล้ายงานศิลปะอีกแบบ ส่วนภายในถ้ำลาวา ก็ได้รับอิทธิพลจากกิจกรรมในธรรมชาติ อย่าง ลม น้ำ กัดกร่อนให้เปลี่ยนรูปร่างกันไป รวมถึงไฮไลท์ที่ปลายเส้นทางชมถ้ำลาวา ซึ่งมีลักษณะเป็นเสาหินหน้าตาคล้ายรูปปั้น ความสูงราว 7 เมตรด้วย

Cr. Korea.net

ด้วยความพิเศษของลักษณะการเกิดถ้ำลาวานี่เอง ที่ทำให้ถ้ำมันจังกุลรวมถึงถ้ำลาวาอื่นๆ ในระบบถ้ำ Geomunoreum ของเจจูได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปีค.ศ. 2007 

ที่มา:https://www.wonderfulpackage.com/article/v/216/

บล๊อกที่สี่สิบหกของฉัน ไปสวนเขาวงกตกิมนยอง กันเถอะ

สวัสดีค่ะ เรามีที่ๆหนึ่ง ที่ทุกคนจะเข้าแล้วออกยาก นั่นก็คือสวนเขาวงกตกิมนยอง 

สวนเขาวงกตกิมนยอง Gimnyeong Maze Park (김녕미로공원) ถูกออกแบบโดยบริษัทชื่อดัง Adrian Fisher Minotaur Maze Designs ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญในการสร้างเขาวงกตโดยเฉพาะ และ Frederic H. Dustin แห่งมหาวิทยาลัยเชจู ผู้ซึ่งคลุกคลีอยู่กับเกาะเชจูมานานถึง 27 ปี จึงทำให้ส่วนแห่งนี้มีความแตกต่างและเอกษลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน ถ้ามองจากมุมสูงจะเห็นได้ว่ารูปร่างของเขาวงกตแห่งนี้เป็นรูปของเกาะเชจู และถูกแบ่งเป็นส่วนย่อยๆทั้งหมด 7 ส่วน แต่ละส่วนก็มีรูปร่างแตกต่างกันตามนี้ งู, ม้าพื้นเมืองของเชจู, เรือ, เหยี่ยว และ สุสานหิน นอกจากนี้ยังมีทางเดินด้านบน ที่สามารถเดินขึ้นไปชมวิวและถ่ายรูปจากมุมสูงลงมาที่สวนได้ ซึ่งเรียกว่า ‘gureum dari’

สวนเขาวงกตแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างถ้ำ Manjanggul และถ้ำ Gimnyeongsagul จากทางเข้าสวนจะมีสี่เส้นทางให้เลือก หาเดินตามแผนที่ก็จะใช้เวลาแค่ประมาณ 5 นาทีเท่านั้นเอง แต่ถ้าเดินโดยไม่มีแผนที่ก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 20 นาทีในการหาทางออก นักท่องเที่ยวบางคนใช้เวลาหาทางออกเกือบ 1 ชั่วโมงเลย

ที่สวนนี้ยังมีการใช้เป็นสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยกันถึง 2 เรื่อง คือ ละครเรื่อง “Bad Love” และ หนังเรื่อง “Daddy-Long-Legs”

ที่มา:https://www.chilloutkorea.com/gimnyeong-maze-park/

บล๊อกที่สี่สิบห้าของฉัน ไปน้ำตกช็อนเจยอนกันเถอะ

สวัสดีค่ะวันนี้เราจะพาทุกคนไป เล่นน้ำเย็นๆที่ น้ำตกช็อนเจยอนกันค่ะ ไปกัน

น้ำตกช็อนเจย็อน (Cheonjeyeon Falls)

Cheonjeyeon Falls (천제연폭포) หมายถึงบ่อน้ำของจักรพรรดิแห่งสวรรค์ ตามตำนานเล่าว่า นางไม้เจ็ดตนจะลงมาอาบน้ำที่นี่ในยามกลางคืน น้ำตกช็อนเจย็อนอยู่ในฝั่งซ็อกวีโพ (Seogwipo-si) บนเกาะเชจู (Jeju-do, 제주도), ประเทศเกาหลีใต้ น้ำตกแห่งนี้มีขนาดสูง 3 ชั้น โดยชั้นแรกเป็นหน้าผาสูง 22 เมตร มีน้ำเย็นที่ไหลจากถ้ำ ลงมาสู่บ่อช็อนเจย็อนด้านล่าง ก่อนจะไหลไปสู่น้ำตกชั้นที่ 2, ชั้นที่ 3 และไหลสู่ทะเลในลำดับสุดท้าย

สะพานซ็อนอิมแด-กโย หรือ สะพานซ็อนอิมเกียว (Seonimdaegyo, 선임대교) เป็นสะพานที่พาดอยู่เหนือบ่อน้ำ ในหุบเขาช็อนเจย็อน (Cheonjeyeon Valley) และเป็นสะพานที่เชื่อมต่อ ระหว่างน้ำตกช็อนเจย็อน กับศูนย์ท่องเที่ยวชุงมุน (Jungmun Tourist Complex, 중문관광단지)

สะพานมีลักษณะโค้งมน และมีการแกะสลักลวดลาย เป็นรูปนางไม้ทั้งเจ็ด ประดับประดาอย่างสวยงาม อยู่ที่ราวสะพาน ทำให้สะพานแห่งนี้ ถูกเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า สะพานชิลซ็อนยอแด-กโย (Chilseonyeodaegyo, 칠선녀대교) ซึ่งหมายถึงเจ็ดนางไม้นั่นเอง

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถศึกษา ประวัติความเป็นมาของน้ำตกแห่งนี้ ได้ที่ ศาลาแปดเหลี่ยมที่ชื่อว่า ช็อนเจรูนูกัก (Cheonjeru Pavilion, 천제 루 누각) ซึ่งมีภาพวาดที่บอกเล่าตำนาน ของน้ำตกช็อนเจย็อน (Cheonjeyeon Falls) เกี่ยวกับนางไม้ทั้งเจ็ด และเทพแห่งขุนเขา

ในสมัยโบราณ มีความเชื่อว่า หากได้มายืนภายใต้น้ำตก  ในวันที่ 15 เดือนเจ็ด ของปีทางจันทรคติแล้ว จะสามารถปัดเป่าโรคร้ายให้หายไปได้ ทำให้ในปัจจุบัน ในเดือนพฤษภาคมของทุกปีที่เป็นเลขคู่ จะมีการจัดเทศกาลชิลซ็อน-นยอ (Chilseonyeo, 칠선녀) หรือเทศกาลเจ็ดนางไม้ขึ้น ที่น้ำตกแห่งนี้ ซึ่งคุณสามารถลงเล่น และแช่ตัวในน้ำตก ดังนั้นอย่าลืมนำชุดว่ายน้ำของคุณไปด้วย

ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ของน้ำตก ที่โดยรอบเต็มไปด้วยพืชพันธุ์หายาก เช่น ซลอิพ-นัน (Solipnan, 솔잎난) หรือเฟิร์นที่เรียกว่าหวายทะนอย (Psilotum Nudum) ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ ถูกกำหนดเป็นสมบัติทางธรรมชาติ ลำดับที่ 378 ในปี ค.ศ. 1993

นอกจากนี้ยังเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียง 1 ใน 3 ของเกาะเชจู (Jeju-do, 제주도) นอกเหนือไปจากน้ำตกช็อนจีย็อน (Cheonjiyeon, 천지연폭포) และน้ำตกช็องบัง (Jeongbang, 정방폭포)

ที่อยู่ South Korea, Jeju-do, Seogwipo, Jungmun-dong, 2232 (제주특별자치도 서귀포시 중문동 2232)

ข้อมูลเพิ่มเติม

สายด่วนการท่องเที่ยว 1330: + 82-2-1330 (เกาหลี, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีน)

ติดต่อสอบถาม +82-64-760-6331

website: visitjeju.net (อังกฤษ, เกาหลี, ญี่ปุ่น, จีน)

เวลาทำการ 09: 00-19: 00

เข้าชมรอบสุดท้าย 1 ชั่วโมงก่อนเวลาปิดทำการ

ค่าเข้าชม

ผู้ใหญ่ 2,500 วอน / วัยรุ่นและเด็ก 1,350 วอน

กลุ่ม: ผู้ใหญ่ 2,050 วอน / วัยรุ่นและเด็ก 850 วอน

ฟรีสำหรับเด็ก (อายุ 6 ปีขึ้นไป), ผู้สูงอายุ (อายุ 65 ปีขึ้นไป), ผู้ทุพพลภาพ (ต้องมาพร้อมกับคู่มือสำหรับผู้พิการ (ระดับ 1-3) เป็นต้น

กลุ่ม: 10 คนขึ้นไป

การเดินทาง

จาก Jeju International Airport

ขึ้นรถ Airport Limousine Bus No. 600 และลงที่ ลงที่ป้ายจอดรถประจำทาง “Yeomiji Botanical Garden (여미지 식물원)” ใน Jungmun Resort และเดินอีกประมาณ 5 -10 นาที

ใช้เวลานั่งรถประมาณ 50 นาที เวลารถออกทุกๆ 15 นาที

ที่มา:https://www.jointtravel.com/south-korea-travel-information/cheonjeyeon-falls.html/

บล๊อกที่สี่สิบสี่ของฉัน ไปอีแดกันเถอะ

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปละลายทรัพย์ที่อีแดกันค่ะ ไปกัน

ย่านช้อปปิ้งอีแดหรือแถวบริเวณมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา เป็นย่านช้อปปิ้งสินค้าแนววัยรุ่นแฟชั่นวัยใสสไตล์เกาหลี  สินค้าราคาไม่แพง ทั้งยังมีสินค้าหลากหลายแนวให้เดินเลือก ไม่ว่าจะเป็น ของจุกจิกน่ารักๆกิ๊ฟช้อปเก๋ๆ เครื่องประดับ เสื้อผ้า  แว่นตา กระเป๋า รองเท้า อุปกรณ์เกี่ยวกับโทรศัพท์ เครื่องสำอางต่างๆ ร้านค้ายาวเหยียดสองข้างทาง

สินค้าประเภทเสื้อผ้าจะมีราคาถูกเป็นที่สะดุดใจของบรรดาสาวๆขาช้อปเป็นอย่างมาก นอกจากวัยรุ่นหนุ่มสาวที่มาเดินเลือกซื้อสินค้ากันแถวนี้แล้ว ก็จะมีวัยทำงานที่ชื่นชอบมาเดินช้อปซึ่งจะคึกคักกันมากในช่วงเย็นๆ

ที่มา:https://www.chilloutkorea.com/ewha-shopping-street/

บล๊อกที่สี่สิบสามของฉัน ไปลานซองกเยพลาซ่ากันเถอะ

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปนั่งรับลม อาบแสงจันทร์ กันที่ ลานซองกเยพลาซ่า กันค่ะ

ลานชองกเยพลาซ่า (Cheonggye Plaza) ตั้งอยู่บนถนนเซจอง(Sejong-ro) เป็นจุดเริ่มต้นของคลองชองกเยชอน โดยเริ่มตั้งแต่อาคาร Dong-A llbo (ต้นคลองชองกเยชอน) ยาวไปจนถึงสะพานซินทับชอลกโย (Sindapcheolgyo Bridge)  ระยะทางยาวประมาณ 160 เมตร กว้าง 50 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2,500 ตารางเมตร ภายในบริเวณตกแต่งด้วยน้ำพุที่สวยงาม น้ำตกเทียม และคลองชองกเยชอนจำลองขนาดเล็ก พลาซ่าแห่งนี้ไม่เคยหลับใหล นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับแสงสีในเวลากลางคืนได้อีกด้วย

จุดไฮไลท์ของชองเกพลาซ่านั้นมี 3 จุดหลักๆก็คือ

1. หอคอย Spring Tower
หอคอยรูปหอยเกลียวสีน้ำเงินแดง มีความสูงประมาณ 20 เมตร เป็นเหมือนสัญลักษ์แห่งคลองชองเกชอน ถูกออกแบบโดยศิลปินแนวป๊อบชาวสวีเดน “Claes Oldenburg”

2. ลานน้ำพุ Candlelight Fountain
มีความยาวประมาณ 4 เมตร เป็นน้ำพุเล่นระดับสองชั้น ในตอนเวลากลางคืนนั้นจะมีการเปิดไฟประดับหลายสีสันที่สวยงาม

3. Palseokdam
เป็นทางเดินหินที่สร้างมาจากหิน 8 ชนิดซึ่งเป็นตัวแทนของจังหวัดในเกาหลีช่วงราชวงศ์โชซอน และจะมีบ่อเล็กๆที่นักท่องเที่ยวนิยมโยนเหรียญลงไป ถ้าเหรียญลงรูก็เชื่อว่าจะโชคดีและคำอธิฐานจะเป็นจริง มีชื่อเรียกว่า “Coins of Luck”

ที่มา:https://www.chilloutkorea.com/cheonggye-plaza/

บล๊อกที่สี่สิบสองของฉัน ไปไร่ชา O’sullocกันเถอะ

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปชมชาบนเกาะเชจูกันค่ะ คือไร่ชา O’sulloc

ไร่ชา O’sulloc (제주 서광다원) เป็นไร่ชาขนาดใหญ่ที่สุดของเกาหลี อยู่บนเกาะเชจู ซึ่งเป็นแหล่งปลูกชาชั้นยอดเพราะต้นชาจะได้รับแสงแดดที่พอเหมาะ ทำให้ได้ใบชาที่มีคุณภาพสูง ไร่ชา O’sulloc นี้คลอบคลุมพื้นที่กว่า 528,928 ตารางเมตร ปลูกอยู่บนเนิน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมแวะมาเที่ยวและถ่ายรูป

ก่อนหน้านี้ชาวไร่ทั่วไปจะปลูกพืชแต่ไม่ได้ผลผลิตที่น่าพอใจเนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกจะเป็นหินและดินไม่อุดมสมบูรณ์ ไร่ชา O’sulloc ได้เริ่มปลูกชาแทนที่พืชไร่ทั่วไป และได้ใบชาที่ดี ทำให้ประสบความสำเร็จและเป็นตัวอย่างที่ดีในการเพาะปลูกบนพื้นที่ภูเขา

ที่นี่จะมีร้านค้า ร้านอาหารและขนมที่ทำจากชา เช่น ไอติม ขนมเค้ก เบเกอรี่ และเครื่องดืมที่ทำจากชา โดยเฉพาะชาเขียวให้ลองชิมกันด้วย และที่นี่ยังเป็นร้านต้นตำรับของร้านชา O’sulloc ที่เปิดร้านสาขาตามเมืองใหญ่ๆทั่วทั้งประเทศเกาหลีด้วย

ที่มา:https://www.chilloutkorea.com/osulloc-seogwang-tea-garden/

บล๊อกที่สี่สิบเอ็ดของฉัน ไปตลาดปลาจากัลชีกันเถอะ

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปกินปูและอาหารทะเลอื่นๆ ที่ส๊ดสด กันค่ะ นั่นคือ ตลาดปลาจากัลชี ค่ะ

รีวิว : ตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market) ปูซาน กินปู… ที่ปูซาน Snow Crab ที่ตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market) ตัวนี้ 70,000 วอน (2,400 บาท) รวมค่านึ่งแล้ว เนื้อหวานหอมที่สุด

ชื่อสถานที่ : ตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market) ปูซาน เวลา : 05:00-22:00

แนะนำให้มาตั้งแต่ 9 โมงเช้าเป็นต้นไป (หยุดทุกวันอังคารที่ 1 และ 3 ของสัปดาห์) การเดินทาง :  สถานี Jagalchi ทางออก 10

ปูซานเป็นเมืองชายทะเล และมีตลาดปลาที่สำคัญประจำเมืองคือ ตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market) เป็นตลาดปลาและอาหารทะเล ทั้งแบบสด และแบบตากแห้งที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี อีกหนึ่งแลนมาร์คของเมืองปูซานที่เพื่อนๆ ไม่ควรพลาด

ตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market) อยู่ตรงข้ามกับ BIFF Square : ถนนอาหาร แห่ง ปูซาน สตรีทฟู้ด  สถานี Jagalchi ทางออก 10

ตลาดอาหารทะเลแห่งนี้เปิดตั้งแต่ 05:00-22:00 แนะนำให้มาตั้งแต่ 9 โมงเช้าเป็นต้นไป เพราะตลาดจะเปิดทั้งส่วนของภายนอก และร้านภายในอาคาร

ตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market) เป็นตลาดปลาที่ใหญ่จริงๆ มีอาหารทะเลสดๆ เยอะมาก เรียกได้ว่าทุกสิ่งที่คิดได้ มีทั้งหมด กุ้ง หอย ปู ปลา และอื่นๆ เพียบ

ส่วนของอาหารทะเลตากแห้งก็เช่นกัน มีให้เลือกซื้อกันหลากหลายชนิด เท่าที่สอบถามราคากับคนท้องถิ่น ได้ความว่า ตลาดนี้ขายถูกกว่าเมืองอื่นๆ

นอกจากแผงอาหารทะเลสด จากพ่อค้าแม่ค้า ยังมีร้านอาหารทะเลสดๆ ว่ายน้ำอยู่ในตู้ ให้เราเลือกซื้อ แล้วนำไปปรุงเป็นอาหาร

ร้านอาหารทะเล ชั้น 1 จะเป็นตู้โชว์อาหารทะเลสดๆ ว่ายน้ำอยู่ในตู้ ในย่านนี้มีหลายร้าน มีป้ายราคาชัดเจน

ร้านอาหารทะเลย่านนี้ เท่าที่ลุงเด้งป้าไก่ เดินสำรวจราคาดูแล้ว ราคาแต่ละร้านเท่ากัน ชอบร้านไหน เข้าได้เลย

ตัวอย่างอาหารทะเล ที่เลี้ยงอยู่ในตู้ มีปลาหลายชนิด

ลุงเด้ง ป้าไก่ สนใจ Snow Crab ตัวขนาด 1 โล กว่าๆ ทุกตัวขนาดเดียวกัน ทั้งหมด

Snow Crab ตัวขนาด 1 โล กว่าๆ ตัวนี้ 70,000 วอน (2,400 บาท) รวมค่านึ่งแล้ว เลือกปูแล้วจะมีพนักงานเดินพาไปยังร้านอาหารที่อยู่ชั้น 2

บรรยากาศภายในร้านชั้น 2 มีลูกค้าเยอะพอสมควร ส่วนมากจะมาสั่งหอย กับ ปลา กันซะมากกว่า

พอได้ที่นั่งก็สั่งเครื่องดื่ม พนักงานก็จะจัดโต๊ะ พร้อมนำเครื่องเคียงมาเสิร์ฟ

พนักงานจะนำพลาสติกผืนใหญ่มาคลุมโต๊ะ แล้ววางเครื่องดื่ม เครื่องเคียงต่างๆ คือเวลาแกะปูกระจายเลอะโต๊ะ จะได้รวบพลาสติกแล้วนำไปทิ้งได้เลย

ปูใช้เวลาในการนึ่งประมาณ 15 นาที จากนั้นทางร้านก็จัดใส่จานมาเสิร์ฟ เสียดาย… ไม่มีน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบไทย

Snow Crab สดๆ ว่ายน้ำในตู้ เวลานำไปนึ่ง เนื้อหอมหวานมาก บอกเลย ราคานี้ ถ้าจ่ายไหว ควรมาลองกินกัน ไม่งั้้นพลาดแน่ๆ

ก้ามปูอร่อยหวาน แกะง่าย ด้วยความที่สดมาก เนื้อปูหลุดจากก้ามง่ายมาก กินอร่อยเต็มคำจริงๆ

เนื้อที่ขาปู เด็ดสุดๆ แกะง่าย กินดี เนื้อหวานมากๆ

แกะกันง่ายๆ กินกันง่ายๆ เนื้อปูสด เรียงตัวสวยงามจริงๆ

แกะไว้ล่วงหน้าแล้วกินคำโตๆ เต็มปากเต็มคำ … ถ้ามีโอกาศต้องจัดนะครับ อร่อยจริงๆ

ที่มา:https://www.kto.or.th/post/busan-6-%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2-jagalchi-market