บล๊อกที่สิบสองของฉัน ไปตึกJYP Entertainment กันเถอะ

안영하세요❗❗❗❗ วันนี้เราไปค่ายใหญ่ยักษ์อย่าง  JYP Entertainment กันค่ะ

พามาทัวร์ตึกใหม่ค่ายเพลง JYP Entertainment ซึ่งย้ายจากที่เดิมที่อยู่อัพกูจอง สู่ที่ใหม่ที่อยู่ใกล้กับสวนสาธารณะโอลิมปิก (Olympic Park) และเราก็สืบทราบมาว่า ตึกใหม่ของ JYP ยังมีคาเฟ่แบบ All Organic ออแกนิคกันแบบทุกส่วนมารองรับแฟนๆที่มาติดตามศิลปินกันถึงตึกด้วย จะเป็นยังไงนั้นติดตามกันได้เลย

ปาร์คจินยอง อยากให้อาหารที่อยู่ในตึก JYP ใหม่ทั้งหมดเป็นออร์แกนิค

มีเรื่องราวที่ปาร์คจินยอง เจ้าของค่าย JYP ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ Life Bar (인생술집) ช่อง TvN ว่า เขาอยากให้ตึกใหม่ของ JYP มีโรงอาหารแบบทุกอย่างเป็นออร์แกนิค เพราะตัวเขาเองเคยมีปัญหาสุขภาพ เคยมีอาการแพ้ และทำให้เป็นอุปสรรคกับการร้องเพลงมาอย่างหนัก จนพบว่าสุดท้ายแล้วปัญหานี้แก้ไขได้จากการเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน โดยเริ่มต้นจากการเปลี่ยนอาหาร เลือกทุกอย่างให้เป็นออร์แกนิคแล้ว ก็ทำให้สุขภาพของเขาดีขึ้นและกลับมาทำกิจกรรมดนตรีได้อย่างเต็มที่ จึงเป็นที่มาว่าทำไมเขาถึงอยากเห็นศิลปินในสังกัด สุขภาพดีด้วย จึงเป็นที่มาว่าโรงอาหารใหม่ชั้นบนสุดในตึกใหม่ของ JYP ก็เป็นออร์แกนิคล้วนๆ

ท้ายสุดแล้วปาร์คจินยอง ก็ค้นพบว่า อาหารออร์แกนิค คือทางออก

เขายังกล่าวต่อด้วยอีกว่า การที่เห็นพนักงานในตึกเลือกซื้อข้าวกล่องจากร้านสะดวกซื้อ ถือเป็นเรื่องที่เจ็บปวดอย่างหนึ่ง เลยตัดสินใจเลือกวัตถุดิบทุกอย่างให้เป็นออร์แกนิค กรณีที่พนักงานต้องมีปฏิบัติงานข้างนอก ก็แค่เพียงโทรศัพท์มาจองล่วงหน้าแล้วจะมีคนคอยบริการเดลิเวอรี่ จัดส่งนอกสถานที่ให้อีกด้วย!!

ที่มา : ถอดมาจากบทสัมภาษณ์  “ทำไม ปาร์คจินยอง ถึงอยากให้พนักงาน JYP กินออร์แกนิค” 

“คลิปที่แจ๊คสัน GOT7 โทรไปขอคำแนะนำการกินออร์แกนิค
จากปาร์คจินยอง โดยปาร์คจินยองบอกกับเขาว่า
ถ้ากินออร์แกนิคนะ จะสามารถเต้นได้จนถึงอายุเขาเลย
แถมเขายังแนะนำให้เลือกกินผักออร์แกนิคแทนวิตามิน
เลือกใช้ยาสีฟันออร์แกนิคอีกต่างหาก”

ร้าน SOUL CUP CAFE คาเฟ่บนตึกใหม่ของ JYP

ก็พอจะเข้าใจว่าทำไมคาเฟ่ที่นี่ ถึงถูกดีไซน์ให้ทุกอย่างเป็นออร์แกนิคกันขนาดนี้ เอาล่ะ เราจะพาทุกคนมาดูบรรยากาศของคาเฟ่ที่นี่กัน…

บรรยากาศที่นี่กว้างโอเคมาก คนไม่ได้เยอะมากขนาดที่เราคาดการณ์เอาไว้ ขนาดว่ามาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

เมนู

เมนูที่นี่มีตั้งแต่ ชา กาแฟ สมูทตี้ ไปจนถึงอาหารและของหวาน ส่วนราคาก็ถือว่าแพงใช้ได้เลยจริงๆ แต่ถ้าแลกกับคุณภาพ ด้านบนเมนูมีเขียนวงเล็บไว้หมดเลยว่า เมล็ดกาแฟเป็นออแกนิค ใบชาก็ออแกนิค นมก็ออแกนิค อู้หูววว… สาบานว่านี่คือค่ายเพลง

ส่วนกาแฟ ถ้าสังเกตเพิ่มดีๆ จะเห็นว่าที่นี่ไม่มีกาแฟหวานๆเลย ไม่มีวานิลลาลาเต้ ไม่มีคาราเมลลาเต้ ไม่มีคาปูชิโน่ เดาสาเหตุไม่น่าจะยาก เพราะมันอาจจะหวานเกิน หรือไม่ก็ของที่หาได้ไม่ออแกนิคพอ ใครที่ชอบกินของหวานๆ อาจจะต้องสั่งเป็นอย่างอื่นมาแทน ด้วยความที่อยากกินของหวานพอดี เลยต้องยอมสั่งอย่างอื่นมาที่ไม่ใช่กาแฟ แต่ได้เป็น Chocolate & Banana Smoothie (สมู้ตตี้ช็อคโกแลตและกล้วย) มาดื่มแทน ในราคา 6,500 วอน

ป้ายเขียนตัวโตๆเลยว่า ที่นี่ใช้วัตถุดิบออร์แกนิคหมดเลย

เมนูเครื่องดื่ม อันนี้เป็นสมู้ทตี้ช็อคโกแลตและกล้วย

จุดขายอย่างอื่นที่หลายๆคนมาแล้วต้องมาลองคือ ไอศกรีมออแกนิค ที่พรีเมียมตั้งแต่ราคา (3,800 วอน) และหน้าตา แน่นอนว่าศิลปินของที่นี่ก็โปรดปรานและได้มาลองกันบ้างแล้ว

อีกเมนูที่อยากจะลองแต่ก็ไม่สามารถลองทั้งหมดในวันเดียวได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นไม่เข้าคอนเซ็ปต์เฮลตี้ (กินเยอะก่อน 55) นั่นก็คือ ขนมเค้กนั่นเอง ~

ทีนี่ก็ถึงตาของแฟนคลับให้มาลองกันถึงที่แล้วจริงๆ มาลองใช้ชีวิตดีเหมือนศิลปินในค่ายนี้? กันบ้าง เผื่อมาแล้ว กลับไปจะได้แรงบันดาลใจในการกินคลีน มีแผนกินออแกนิคกันต่อเนื่องก็เป็นไปได้ ใครที่สนใจมาตามพิกัดที่เขียนไว้ด้านล่างนี้กันได้เลยจ้า

แถมไปด้วยกับมุมสวยๆ หน้าร้านที่มาถึงที่นี่ก็มีแต่คนจ้องจะถ่ายกับมุมนี้…

พิกัดตึกใหม่ JYP Entertainment
และร้านคาเฟ่ SOUL CUP (소울컵 카페)

ที่อยู่ : 서울특별시 강동구 강동대로 205
(205, Gangdong-daero, Gangdong-gu, Seoul)

วันเวลาทำการ : ทุกวัน 09:00-22:00 น.

การเดินทาง : ออกจากสถานี Dunchon-dong 둔촌동역 (สาย 5) ออกประตู 3 เดินตรงมาเรื่อยๆประมาณ 600 เมตร จนเห็นสี่แยก เลี้ยวขวาแล้วตรงไปอีก 500 เมตรจะเห็นตึก JYP ทางเข้าคาเฟ่หน้าตึกจะเป็นแก้วสีแดงใหญ่ๆ

(จากสถานีเดินมาถึงตึกก็ประมาณ 10-15 นาทีได้เลย ถือว่าเดินไกลอยู่)

และนี่คือศิลปินในค่ายนะคะ

Park Jinyoung

2PM

JJ Project

15&

Got7

Day6

Twice

Stray Kids

ITZY

JUS2

ที่มา:https://japaikorea.com/new-jyp-building-soul-cup/

บล๊อกที่สิบเอ็ดของฉัน ไปเที่ยวพระราชวังเคียงบกกุงกันเถอะ

안녕하세요❗❗❗ สวัสดีค่ะ วันนีเราจะพาทุกคนไปพระราชวังที่เชื่อวันทุกๆ คนก็คงอยากจะไปใส่ชุดฮันบกเดินชิวๆที่นี่ นั้นคืิอ พระราชวังเคียงบกกุง นั่นเองค่ะ ไปกัน

พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า “พระราชวังคยองบกกุง” เป็นทั้งสัญญลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล พระราชวังที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นในปี 1394 ในสมัยพระเจ้าแทโจ ราชวงศ์โชซอน เดิมทีนั้นภายในพระราชวังมีอาคารและตำหนักต่างๆมากกว่า 200 หลัง แต่เมื่อมีการรุกรานของญี่ปุ่น อาคารส่วนใหญ่ก็ได้ถูกทำลายลงเหลืออยู่เพียงแค่ 10 หลังเท่านั้น

พระราชวังทิศเหนือ (Northern Palace) ก็เป็นอีกชื่อหนึ่งของพระราชวังแห่งนี้ เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ เมื่อเทียบกับพระราชวังแห่งอื่นๆ เช่น พระราชวังชางด็อกกุง (Changdeokgung) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก และพระราชวังเคียงฮุยกุง (Gyeongheegung) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก อย่างไรก็ตามพระราชวังเคียงบกกุงนั้นขึ้นชื่อว่า เป็นพระราชวังที่สวยงามที่สุด เนื่องจากฉากหลังของพระราชวังนั้นเป็นเขาพูกักซาน จึงทำให้ดูยิ่งใหญ่อลังการเป็นอย่างมาก

คำว่า “เคียงบกกุง” หมายถึง พระราชวังแห่งพรที่มีแสงสว่าง ภายในบริเวณของพระราชวังแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจดังนี้คือ “พระที่นั่งคึนจองวอง (Geunjeongjeon)”และ “ศาลาเคียงฮวยรู (Hyangwonjeong)” ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณสระน้ำ มีทัศนียภาพที่สวยงามมาก และรอบๆ บริเวณตรงประตูจอนชุลมุน จะสามารถเดินผ่านไปถึงถนนซัมจองดองกิล ยังมีร้านขายชุดฮันบกอันเก่าแก่ให้ได้เลือกชม รวมไปถึงหอศิลป์ต่างๆและทำเนียบชองวาแด เมื่อเดินไปรอบๆจะพบส่วนหย่อมที่ให้ความรู้สึกร่มรื่น นอกจากนี้ภายในพระราชวังยังมีพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ (National Palace Museum of Korea) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของประตูฮึงรแยมุน (Heungnyemun Gate) กับพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติ (National Folk Museum) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกในพื้นที่พระราชวังเคียงบกกุง (Hyangwonjeong) อีกด้วย

การเดินท่องเที่ยวภายในบริเวณพระราชวัง จะทำให้ได้ซึมซับและรู้จัก วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวเกาหลีมากยิ่งขึ้น ซึ่งภายในบริเวณแห่งนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติและพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเกาหลี ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์แห่งความภาคภูมิใจของคนเกาหลี

*หมายเหตุ: ตั๋วเข้าชมพระราชวังเคียงบกกุง มีจำหน่ายที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ หรือพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติ เช่นกัน

แนะนำเส้นทางเดินเที่ยวในพระราชวัง

ให้เริ่มเดินจากด้านหน้าพระราชวัง ตรงขึ้นไปเรื่อยๆผ่านอาคารและตำหนักต่างๆ เดินจนไปถึงด้านหลังพระราชวังแล้วเที่ยวชมตำหนักและศาลากลางนี้ จากนั้นเดินย้อนมาทางพิพิธภัณฑ์ทางด้านขวาและเดินออกประตูด้านข้าง จะสามารถเดินต่อไปยังถนนเส้นช้อปปิ้งและเที่ยวanok Villageหมู่บ้านบุคชอนฮันอก Bukchon H ต่อได้

ที่มา:https://www.chilloutkorea.com/gyeongbokgung-palace/

บล๊อกที่สิบของฉัน ไปสวนสนุกลอตเต้เวิล์ดกันเถอะ

안녕하세요❗❗❗ วันนี้จะพาทุกคนไปเล่นเครื่องเล่นที่น่าตื่นเต้นกันค่ะ

สวนสนุกลอตเต้เวิล์ด(Lotte World Adventure)เป็นหนึ่งในสวนสนุกที่ดังที่สุดของเกาหลี ซึ่งมีอาคารสวนสนุกในร่มที่มีขนาดใหญที่สุดในโลกอยู่ด้วย การมาเที่ยวเล่นที่นี่จึงสามารถทำได้ทั้งปีโดยไม่ต้องดูสภาพอากาศกันเลย ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่รวบรวมความบันเทิงและการชมวิวทิวทัศน์ ภายในมีเครื่องเล่นที่น่าตื่นเต้น ลานไอซ์สเก็ต ทะเลสาบ พิพิธภัณท์หมู่บ้านโบราณเกาหลี(Traditional Folk Museum) ขบวนพาเหรดรูปแบบต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเกาหลีและชาวต่างชาติมาเข้าชมกว่า 6 ล้านคนต่อปี

สวนสนุกลอตเต้เวิล์ดแบ่งออกเป็นโซนใหญ่ๆได้ 2 โซน ได้แก่ “ธีมผจญภัย(Adventure)”ที่เป็นสวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ “เกาะเวทมนต์(Magic Island)”เป็นสวนสนุกกลางแจ้ง ตั้งอยู่ด้านนอกติดกับทะเลสาบซกชอนโฮซู(Seokchonhosu Lake) อีกทั้งยังมีร้านจำหน่ายของที่ระลึก ร้านอาหารนานาชาติ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆอีกมากมาย โดยในส่วนของอาคารสวนสนุกโซนในร่มนั้น ได้รับการออกแบบและตกแต่งมาอย่างดี โครงสร้างภายในใช้หลังคาเป็นกระจกทั้งหมด ทำให้ถึงแม้จะอยู่ในร่มแต่ก็ได้บรรยากาศแบบกลางแจ้งร่วมด้วย

เครื่องเล่นที่น่าสนใจ ได้แก่ Gyro Drop(ดรอปทาวเวอร์) สูง 70 เมตร, เครื่องเล่นที่เสมือนอยู่ในพายุทอร์นาโด, Flume Ride เรือยาวโต้คลื่นสูง และเรือโจรสลัดสเปนแกว่งถึง 75 องศา เป็นต้น หลังจากที่สนุกสนานไปกับเครื่องเล่น ขบวนพาเหรด และการแสดงเกือบ 200 โชว์ ก็พลาดไม่ได้ที่จะลองเล่นไอซ์สเก็ตในร่ม(เปิดบริการ 10:30-22:30) และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเกาหลี

ที่มา:https://www.chilloutkorea.com/lotte-world-adventure/

บล๊อกที่เก้าของฉัน ไปถนนสายโรแมนติกกันเถอะ

 안녕하세요❗❗❗ วันนี้เราจะพาไปตามรอยซีรี่ย์เรื่อง ก๊อบลิน กันค่ะ

ชองดง-กิล (Jeongdong-gil) ถนนสายโรแมนติกริมย่านราชวังเกาหลี

ทางด้านทิศใต้ของพระราชวังถ็อกซู มีถนนเลียบกำแพงหิน (Stonewall Street) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามและโรแมนติกสายหนึ่งในเกาหลี ถนนสายนี้มีชื่อว่า ถ็อกซูกุง โดดัม-กิล (Deoksugung Doldam-gil) หรือชองดง-กิล (Jeongdong-gil) 

ชองดง-กิล (Jeongdong-gil) เป็นถนนระยะทางประมาณ 1 กม. ที่เชื่อมระหว่างพระราชวังถ๊อกซูกับพระราชวังเคียงฮุย สองข้างทางจะเรียงรายไปด้วยต้นกิงโกะ (แปะก๊วย) ที่ปลูกไว้เลียบไปกับความโค้งของเส้นถนน ขนานกับแนวกำแพงหินสีน้ำตาลเทาสวยงาม ทำให้ถนนเส้นนี้มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ในตัวอย่างล้นเหลือ ระหว่างทางยังมีทั้งโรงละคร โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ และรูปปั้น 3 มิติ จางดอกแด (Jangdockdae) อยู่ตรงบริเวณลานนํ้าพุหน้าพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งกรุงโซลให้ชมกันด้วย

การเดินทางมาเยือนถนนชองดง-กิล (Jeongdong-gil) ในแต่ละช่วงเวลา ก็จะได้บรรยากาศที่แตกต่างกันไป ช่วงที่แนะนำคือ ช่วงเวลาที่ต้นกิงโกะ (แปะก๊วย) เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสะพรั่งในฤดูใบไม้ร่วง (เดือน ก.ย. – ต.ค)

หากมาถึงแล้วก็ไม่ต้องแปลกใจหากเพื่อนๆ จะเห็นใบของต้นกิงโกะร่วงหล่นเต็มพื้นถนนโดยไม่มีใครกวาด เพราะนั่นถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ถนนเส้นนี้ติดอันดับถนนสายโรแมนติกนั่นเอง

หนุ่มสาวเกาหลีมีความเชื่อเกี่ยวกับถนนสายโรแมนติกเส้นนี้อยู่ 2 แบบ คือ ถ้ามาเดินถนนเส้นนี้ในช่วงที่หิมะตก ความรักจะยืนยาว กับความเชื่ออีกแบบที่ตรงข้ามกัน คือ ถ้าหนุ่มสาวคู่ไหนมาเดินด้วยกันที่นี่ จะเลิกร้างกันไป เอ๊ะ! แล้วจะเชื่ออันไหนดีล่ะเนี่ย!?? แต่เท่าที่เห็นก็มีคู่รักไปเดินกันหลายคู่นะคะ แถมยังมีซีรี่ย์สหลายๆ เรื่อง รวมทั้งหนังของต่างชาติ (ของไทยเราก็มี) ก็มาถ่ายทำที่นี่ด้วย

ที่มา:https://www.dplusguide.com/2014/jeongdong-gil/

บล๊อกที่แปดของฉัน ไปอัพกูจอง กันเถอะ

 안녕하세요❗❗❗ วันนี้เราจะพาไปแหล่งช๊อปิ้งอีกที่นึงนะคะ สายแฟชั่นห้ามพลาดเด็ดขาด!!!!!! 가자❗❗

อัพกูจอง เรดิโอ

     อัพกูจอง ถนนแฟชั่นแบรนด์ดัง ที่โซล (Seoul) ประเทศเกาหลี (Korea) เอ่ยถึงชื่อย่านนี้แล้ว ขาช้อปตัวพ่อตัวแม่ทั้งหลายได้ยินเป็นต้องร้องอ๋อ… เพราะเป็นแหล่งรวมห้างหรู สินค้าแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็น UNIQLO, MCM, Coach, Prada, Salvatore, Ferragamo, Escada, Louis Vuitton และอีกเพียบไม่สามารถบรรยายได้หมด เรียกว่ารูดปรื้ด ๆ เซ็นกันไม่ทันเลยทีเดียว ถ้าไม่อยากได้สินค้าแบรนด์เนมก็มี แต่ขอบอกว่าราคาไม่เบาเหมือนกัน ซึ่งนอกจากเดินช้อปแล้วยังเจริญหูเจริญตากับตึกสวย ๆ ร้านเก๋ ๆ อีกเพียบไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่เขาได้ฉายาว่าเป็น “Beverly Hill of Korea” โดยเฉพาะเส้น Rodeo street ต้องนับเป็นจุดช้อปแลนด์มาร์คที่สาวกแฟชั่นนิสต้าห้ามพลาดเด็ดขาด !!

        ย่านอัพกูจอง (Apgujeong) เป็นอีกหนึ่งย่านที่น่าไปเดินเที่ยวมาก ๆ ของกรุงโซล โดยย่านนี้เป็นส่วนหนึ่งของเขตเศรษฐกิจที่สำคัญของเกาหลีใต้อย่างเขตกังนัม (Gangnam-gu) นั่นเอง ซึ่งก็พอจะเดากันได้ใช่ไหมคะ ว่าย่านอัพกูจองนี้จะศิวิไลซ์ขนาดไหน แน่นอนว่าห้างร้านค้าต่าง ๆ ที่อยู่ในย่านนี้ก็ต้องเป็นแบรนด์ดังหรูหราระดับโลกทั้งนั้น โดยไฮไลท์ของย่านอัพกูจองจะอยู่บริเวณถนนโรดิโอ (Rodeo Street) มีห้างที่สำคัญก็คือ Galleria Department Store ห้างหรูหราแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์

          นอกจากนี้ตลอดทั้งแนวถนนก็ยังมีร้านขายสินค้าแฟชั่นจากดีไซเนอร์แนวหน้าของเกาหลีให้ได้เดินเลือกช้อปปิ้งอย่างจุใจ ยิ่งไปกว่านั้นในย่านนี้ยังอยู่ใกล้กับตึกค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง S.M. Entertainment และ JYP Entertainment ซึ่งมีศิลปินดัง ๆ มากมาย จึงเป็นแรงดึงดูดให้วัยรุ่นเกาหลีมักจะมาเดินทอดน่องกันชิล ๆ ในช่วงหลังเลิกเรียนและวันหยุด ใครอยากช้อปปิ้งและส่องโอปป้าสไตล์กังนัม ก็เชิญมาเที่ยวที่นี่ได้เลย

ที่มา:https://www.dplusguide.com/2014/korea-apgujeong-rodeo-street/

     :https://travel.kapook.com/view157182.html

บล๊อกที่เจ็ดของฉัน ไปโซลทาวเวอร์กันเถอะ

안녕하세요❗❗❗ วันนี้จะพาไปที่ที่คู่รักหลายๆคู่อยากไปด้วยกัน

โซลทาวเวอร์ หรือ นัมซาน ทาวเวอร์ N Seoul Tower

      โซลทาวเวอร์ หรือ นัมซาน ทาวเวอร์ (N Seoul Tower) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองโซล เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1980 ตั้งอยู่บนยอดเขานัมซัง สูง 236 เมตร ให้วิวเมืองโซลและบริเวณรอบๆแบบ พาโนราม่า นับว่าเป็นหนึ่งในทาวเวอร์ที่ให้วิวสวยที่สุดในเอเชีย

      โซลทาวเวอร์ ได้รับการ renovate ใหม่ปี 2005 จึงได้ชื่อใหม่เป็น N Seoul Tower โดย N ที่เพิ่มขึ้นมานั้นย่อมาจาก new look หรือ รูปแบบใหม่ โดยมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาการต่างๆ ทั้งการให้แสงไฟที่หลากหลายและสวยงามขึ้น รวมถึงภายในที่ตกแต่งใหม่ โดยมีร้านอาหารบนหอคอยที่จะหมุนครบรอบทุกๆ 48 นาที ชื่อว่า N Grill และห้องน้ำตกแต่งสไตล์อวกาศ

จุดไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาเที่ยว Seoul Tower นั่นก็คือ สถานที่คล้องกุญแจชื่อดัง  Love Key Ceremony ที่มีความเชื่อว่าคู่รักที่มาคล้องกุญแจที่จะมีความรักที่ยืนยาวไปตลอดกาล โดยที่จะเขียนข้อความหรือชื่อของคู่รักไว้บนแม่กุญแจ แล้วนำไปคล้องไว้กับราวเหล็กบริเวณฐานของ N Seoul Tower นั่นเอง สามารถจองตั๋วเข้าชมหอคอยเอ็นโซลทาวเวอร์ (N Seoul Tower) ได้กับ Traveloka เพราะตอนนี้มีเปิดบริการใหม่ให้สามารถจองที่เที่ยวเกาหลีได้ล่วงหน้า ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิว สามารถจองที่เที่ยวแล้วแพลนทริปได้เลย ง่าย สะดวก และรวดเร็วแบบนี้ ทำให้การเที่ยวเกาหลีของคุณง่ายขึ้นเยอะ

ที่มา:https://www.chilloutkorea.com/n-seoul-tower-2/

บล๊องที่หกของฉัน เข้าวังกันเถอะ1

안녕하세요❗❗❗วันนี้ขอเสนอ ท๊าดา พระราชวังชางด็อกกุงค่ะ

พระราชวังชางด็อกกุง

                  พระราชวังชางด็อกกุง หรือ Changdeokgung Palace (창덕궁) เป็นพระราชวังหลวงวังที่สองที่สร้างต่อจากพระราชวังคยองบกกุง ในปี ค.ศ.1405 เป็นพระราชวังที่มีความสำคัญอย่างมากต่อกษัตริย์หลายๆ พระองค์ในราชวงศ์โชซอน ที่มีสภาพดีและสมบูรณ์ที่สุดใน 5 พระราชวังหลวงทั้งหมดที่ยังคงเก็บรักษาไว้ และที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม ในปี 1997 ด้วยค่ะ (ในเกาหลีมีอยู่ 11 ที่ด้วยกัน หนึ่งในนั้นเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ คือ ซองซานอิลชุลบง ที่เกาะเชจู) *คำว่า 궁 (กุง) แปลว่า พระราชวัง

ขอบคุณภาพจาก www.k-heritage.tv

ก่อนจะเข้าไปชมในพระราชวัง จะต้องซื้อตั๋วเข้าชมก่อนที่บูธด้านหน้า ซึ่งค่าเข้าชมเฉพาะพระราชวังคือ 3000 วอน ถ้าใครจะเข้าไปชมสวนฮูวอนด้วยนั้น ก็ซื้อตั๋วแยกต่างหากอีก 5000 วอนค่ะ ซึ่งสวนฮูวอนนี้จะต้องเข้าพร้อมไกด์เป็นรอบๆ ไป มินเลือกรอบ 15:30 เป็นรอบที่ไกด์จะบรรยายเป็นภาษาอังกฤษค่ะ จริงๆ มีรอบถี่มากตลอดวัน แต่ ถ้าเป็นบรรยายภาษาอังกฤษนั้น จะมีแค่วันละ 3 รอบ คือ 11:30, 13:30, 15:30 แต่ถ้าใครมาไม่ทันจะเข้ารอบบรรยายภาษาอื่นๆ ก็ได้นะคะ เพียงแต่ถ้าเราสื่อสารตอนซื้อตั๋วด้วยภาษาอะไร เจ้าหน้าที่จะเลือกไกด์ภาษานั้นๆ ให้เราเลยค่ะ

ขอบคุณภาพจาก 0572.tistory.com

Huwon Course เข้าชมพร้อมไกด์เท่านั้น
ภาษาเกาหลี มีรอบ 10:00, 11:00, 12:00, 13:00, 14:00, 14:30, 15:00, 16:00, 16:30
ภาษาอังกฤษ มีรอบ 11:30, 13:30, 15:30 (ในช่วงเดือน พ.ย.-ม.ค.ไม่มีให้บริการไกด์ภาษาอังกฤษ)
ภาษาญี่ปุ่น มีรอบ 10:30, 16:30
ภาษาจีน มีรอบ 12:30
*หมายเหตุ - ตั๋วเข้าชมสวนฮูวอน จะต้องซื้อก่อนเวลาพระราชวังปิด 2 ชั่วโมง (เนื่องจากทัวร์ใช้เวลา 2 ชั่วโมงพอดีค่ะ) และสามารถซื้อได้ก่อนพระราชวังเปิดแล้ว 1 ชั่วโมง
- เวลารอบทัวร์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ
และในตอนนี้ที่พระราชวังมีบริการ Moonlight Tour ทัวร์ชมพระราชวังตอนกลางคืนด้วยนะคะ โดยจะให้บริการแค่วันที่ 1-2 เมษายน, 4-5 พฤษภาคม และ 2-3 มิถุนายน 2015 เวลา 20:00 รวม 6 วัน จำกัดแค่รอบละ 100 คน ระยะเวลาในการทัวร์ 2 ชั่วโมง ค่าบริการ คนละ 30000 วอน สามารถซื้อตั๋วได้ที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าพระราชวังเลย หรือจะจองไปก่อนก็ได้ที่ ticket.interpark.com/global เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี ไม่อนุญาตให้เข้าร่วมทัวร์ และกล้องถ่ายรูป ขาตั้งกล้อง และอาหาร ไม่อนุญาตให้นำเข้าไปในพระราชวัง สำหรับทัวร์กลางคืน ค่ะ

 
ขอบคุณภาพจากwww.kian.kr

 
ที่อยู่ : 99, Yulgok-ro, Jongno-gu, Seoul
เวลาเปิด : Apr.-Sep.9:00-18:30, Oct.9:00-18:00, Mar.& Nov.9:00-17:30, Dec.–Feb.9:00-17:00   
วันหยุด : Mondays
ค่าเข้า : พระราชวังชางด็อกกุง ผู้ใหญ่ อายุ 19-64 3,000 วอน, เด็ก อายุไม่เกิน 18 ปี 1500 วอน สวนฮูวอน ผู้ใหญ่ อายุ 19-64 5,000 วอน, เด็ก อายุไม่เกิน 18 ปี 2500 วอน
** สำหรับวังชางด็อกกุง สามารถซื้อตั๋ว Integrated Ticket of Palaces หรือตั๋วเหมาสามารถเข้าได้หมดทั้ง 4 วัง คือ คยองบกกุง ชางคยองกุง ถ็อกซูกุง และชางด็อกกุง แถมรวมค่าเข้าสวนฮูวอน และศาลเจ้าจงมโย ในราคา 10000 วอน ถ้าจะเข้าชมหลายๆ พระราชวัง ซื้อตั๋วแบบนี้ก็คุ้มกว่าค่ะ สามารถซื้อที่บูธขายตั๋วที่วังไหนก็ได้ และตั๋วจะมีอายุการใช้งาน 1 เดือน นับจากวันแรกที่ใช้
**หรือเข้าชมฟรีในวันพุธสุดท้ายของทุกเดือน เพราะเป็นวัน Culture Day สถานที่วัฒนธรรมต่างๆ เช่นวัง เข้าฟรีหมดทุกวังค่ะ
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 3 สีส้ม  ลงสถานีอันกุก (Anguk) ทางออกที่ 3 จากนั้นเดินตรงไปเลย



ที่มา:https://www.centertourandtravel.com/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1/121/5%20%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5%20%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B9%8C.html

บล๊อกที่ห้าของฉัน ไปสวนสัตว์กันเถอะ

안녕하세요❗❗❗ ❤️💜💛💙💚วันนี้ไปเที่ยวสวนสัตว์กันค่ะ

สวนสัตว์โซล(Seoul Zoo, 서울동물원) เป็นสวนสัตว์เก่าแก่แห่งแรกของประเทศเกาหลีใต้ มีสัตว์ต่างๆให้ชมมากมายหลายพันตัว จากหลายร้อยสายพันธ์ ทั้งสัตว์บก สัตว์ปีก สัตว์น้ำ สัตว์เรื้อยคลาน แมลงต่างๆ ไปจนถึงพืชพันธ์หายากในเกาหลีที่โซน Botanical Garden โดยมีพื้นที่รวมทั้งหมด ถึงกว่า 1500 ไร่ เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงจะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง ส้มแดง สวยงามมากในช่วงเดือนตุลาคม จนเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมของเมือง และในฤดูใบไม้ผลิก็ยังเป็นจุดชมซากุระเกาหลีที่สวยงามมากด้วยเช่นกัน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของโซล อยู่ในบริเวณเดียวกันกับสวน Seoul Grand Park

เนื่องจากว่าสวนสัตว์โซลมีขนาดที่ใหญ่มาก จึงมีบริการทั้ง รถ shuttle bus ให้บริการฟรี ให้บริการตั้งแต่ 10:00-17:00 ทุกๆ 15-30 นาที, รถลากรูปช้างที่วิ่งภายในสวนสัตว์ทุกๆ 5 นาที และ กระเช้าลอยฟ้า Sky Lift ให้บริการไปที่ส่วนต่างๆโดยมีค่าบริการเพิ่มเติมจากค่าเข้าสวนสัตว์ ซึ่งเหมาะการนั่งชมวิวสวนในมุมสูงที่สวยงามมากด้วย ถ้าใครคิดจะมาเที่ยวแบบเต็มๆทั่วทุกโซนอาจจะต้องเผื่อเวลาไว้ทั้งวันเลยทีเดียว

ภายในสวนสัตว์จะมีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และมินิมาร์ทกระจายตัวอยู่ทั่วๆสวนจึงไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีอะไรกิน

วิธีการเดินทาง

สวนสัตว์โซลอยู่ภายในสวน Seoul Grand Park ให้นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Seoul Grand Park สาย 4 ทางออกที่ 2 จะถึงทางเข้าสวน Seoul Grand Park ให้เดินเลยทะเลสาบเข้าไปจะเจอทางเข้าสวนสัตว์ หรือจะนั่งรถ Shuttle bus ที่หน้าสถานี หรือกระเช้าลอยฟ้าที่บริเวณทะเลสาบก็ได้

ที่มา:https://www.chilloutkorea.com/seoul-zoo/

บล๊อกที่สี่ของฉัน เที่ยวเกาะเชจูกันเถอะ

สวัสดีค่ะ ไปช๊อปปิ้งเหนื่อยแล้ว ไปติดเกาะกัน!!! Let's Go!!

เที่ยวเกาะเชจู มรดกแห่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ เกาหลีใต้

เกาะเจจู หรือเกาะเชจู (Jeju Island) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงโซล และถือเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญในแถบชายฝั่งด้านเหนือส่วนกลางของประเทศเกาหลีใต้ อีกทั้งยังติดอันดับจุดหมายปลายทางในฝันยอดนิยม ทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเองและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นอกจากนั้นเกาะเจจูยังเป็นเกาะที่สำคัญเนื่องจากมีตำแหน่งเป็น 1 ใน 9 จังหวัดของเกาหลีใต้ รวมถึงยังได้รับการจดทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกทางธรรมชาติของโลกอีกด้วย อันเป็นผลมาจากความสวยงามและความมหัศจรรย์ของเกาะแห่งนี้ ที่ธรรมชาติได้บรรจงแต่งแต้มและสร้างสรรค์ได้อย่างลงตัว

เที่ยวเกาะเจจู มรดกแห่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ เกาหลีใต้

ม่เพียงเท่านั้น เกาะเจจู ยังมีศักยภาพทางการท่องเที่ยวไม่แพ้เมืองใหญ่อื่นๆ ในถิ่นโสมขาวแห่งนี้ เพราะนอกจากเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันแสนจะโรแมนติก และวัฒนธรรมที่ดึงดูดให้ใครต่อใครอยากมาเยือนที่นี่แล้ว ในเรื่องของการเดินทางและการขนส่ง เกาะเจจูก็เพียบพร้อมทั้งสนามบินนานาชาติบนเกาะ รวมทั้งยังมีท่าเรือเฟอร์รี่ที่ทันสมัยและสะดวกสบาย ส่วนในเรื่องของอาหารการกิน และที่พักนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเมืองที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินใหญ่แต่อย่างใด

10 สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในเกาะเจจู

ถ้ำหินลาวา ยอดเขาคอมุน

ภูเขาฮัลลาซาน

เกาะอุโด้ Udo Island

อ่าวซอพจิโกจิ

โขดหินจูซังจอลรีแด

น้ำตกจองบัง

ยอดเขาซองซันอิลชุน Seongsan Sunrise Peak

น้ำตกชอนจียอน

โขดหินรูปหัวมังกร

หมู่บ้านพื้นเมืองชองอึพ

ที่มา:https://travel.mthai.com/world-travel/91074.html/attachment/5982714645_3b7c9d593a_z