วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2562

บล๊อกที่สามสิบสี่ ไปพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ณ กรุงโซลกันเถอะ

안녕하세요❗❗❗ สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปที่ ที่หนึ่งที่ทำให้ทุกคนสับสนมึนงงได้ นั่นคือ พิพิธภัณฑ์มีชีวิต ณ กรุงโซล ค่ะ ไปกัน

Alive Museum-N Seoul Tower

นักท่องเที่ยวชาวไทยนั้นได้ชื่อว่าเป็นชาติที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวยังแดนกิมจิกันอย่างมากมายเป็นจำนวนมากเลยทีเดียวในเเต่ละปี โดยเกาหลีนั้นได้ชื่อว่าเป็นเมกกะเเห่งช็อปปิ้งเลยที่เดียว เพราะมีเเหล่งช็อปปิ้งชื่อดังมากมายหลายเเห่งที่โด่งดังเเละเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนอย่างมากมายเลยทีเดียว โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจอย่าง พิพิธภัณฑ์มีชีวิตโซลทาวเวอร์ ก็นับว่าเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเเละน่าสนใจอย่างมากของบรรดานักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาเที่ยวยังเเหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตของกรุงโซล

ขอขอบคุณ ภาพจาก http://english.visitkorea.or.kr/

ขอขอบคุณ ภาพจาก http://english.visitkorea.or.kr/

Alive Museum-N Seoul Tower นั้นเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่บริเวณของโซลทาวเวอร์ ซึ่งนับว่าเป็นเเหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างมากของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวชมกัน โดยที่นี่จะเต็มไปด้วยผลงานศิลปะที่มีความเเปลกตาเเละมีความมีชีวิตชีวาอย่างมาก จนใครได้ชมเเล้วต่างก็ต้องยอมรับเเละประทับใจกันอย่างเเน่นอนเลยทีเดียว

ขอขอบคุณ ภาพจาก http://english.visitkorea.or.kr/

ขอขอบคุณ ภาพจาก http://english.visitkorea.or.kr/

พิพิธภัณฑ์มีชีวิตโซลทาวเวอร์ นั้นมีผลงานศิลปะกว่า 45 ชิ้นด้วยกัน โดยเเบ่งการจัดเเสดงออกเป็นสองโซนด้วยกันคือในโซนของนิทรรศการภาพล้อเลียนต่างๆ เเละวิทยาศาสตร์ รวมทั้งสื่อการจัดแสดง พร้อมวีดีโอ โดยจะเป็นภาพศิลปะที่จะให้คุณได้มีส่วนร่วมเเละเป็นส่วนหนึ่งของผลงานภาพถ่าย ซึ่งนับว่ามีความน่าสนใจเเละสวยงามอย่างมาก ซึ่งมีภาพอย่างมากมายหลากหลายภาพให้คุณได้แอ็คชั่นกันอย่างเมามันส์เเละภาพที่ออกมานั้นเเต่ละภาพก็นับว่าสวยงามน่าสนใจเเบบสุดๆ

ขอขอบคุณ ภาพจาก http://english.visitkorea.or.kr/

ขอขอบคุณ ภาพจาก http://english.visitkorea.or.kr/

ส่วนถัดมาของ Alive Museum-N Seoul Tower จะเป็นการจัดเเสดงที่เป็นเขาวงกตในนัมซาน และจะมีถนนที่เป็นลักษณะของกำแพงหินด็อกซูกุงโดลดัมกิล ซึ่งมีความซับซ้อนเเละน่าสนใจอย่างมากอีกเเห่ง โดยมีหลายคนนิยมกันอย่างมาก นอกจากนี้เเล้วก็มีในส่วนของภาพบรรดาซุปเปอร์ฮีโร่หลากหลายเเบบกัน โดยที่นี่จะเปิดให้บริการทุกวันตั้งเเต่เวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 23.00 นง โดยคุณต้องเสียค่าเข้าชม 12,000 วอนสำหรับผู้ใหญ่ ส่วนเด็กจะอยู่ที่ 9,000 วอน เเต่เด็กอายุไม่ถึง 3 ปี สามารถเข้าชมฟรี นอกจากนี้เเล้วคุณยังสามารถซื้อตั๋วเเบบเเพ็คเกจ ที่รวมทั้งการเข้าชมโซลทาวเวอร์ เเบบผู้ใหญ่ในราคา 15,000 วอน เเละเเพ็คเกจเด็กในราคา 11,000 วอน

ส่วนการเดินทางมายัง พิพิธภัณฑ์มีชีวิตโซลทาวเวอร์ นั้นคุณสามารถใช้บริการของเคเบิ้ลคาร์ โดยขึ้นได้จากสถานีเคเบิ้ลคาร์ ที่จะตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟฟ้า Myeong-dong Station ก็จะขึ้นมาถึงเเล้ว โดยคุณสามารถใช้บริการของรถไฟฟ้าสาย 4 มาลงยังสถานี Myeong-dong Station เเล้วต่อด้วยเคเบิ้ลคาร์ ได้เลย นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกจุดที่ไม่ควรพลาด เพราะคุณจะได้ภาพสวยๆ แหวกแนวอย่างมาก


บล๊อกที่สามสิบสามของฉัน ไปวัดแฮดง ยงกุงซากันเถอะ

안녕하세요❗❗❗❗ สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปวัดที่เก่าแก่โบราณแห่งเมือง ปูซานกันค่ะ นั่นคือวัดแฮดง ยงกุงซา เองค่ะ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ แฮดง ยงกุงซา

วัดแฮดง ยงกุงซา (Haedong Yonggungsa Temple)


Haedong Yonggungsa Temple (해동 용궁사) ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ของเมืองปูซาน (Busan)  ซึ่งเป็นเมืองในพื้นที่ของ จังหวัดคย็องซังใต้ (คย็องซังนัมโด, Gyeongsangnam-do) เป็นวัดที่สร้างบนเหล่าโขดหินริมชายหาด ที่แตกต่างไปจากวัดส่วนใหญ่ ซึ่งมักจะสร้างอยู่ตามเชิงเขา ในประเทศเกาหลีใต้
วัดแห่งนี้ก่อตั้งโดย พระผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งมีนามว่า พระนาองซูโดซา (Monk Naong, 나옹수도사) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์คงมินวังแห่งโครยอ (King Gongmin of Goryeo, 고려 공민왕; ค.ศ. 1351 – ค.ศ. 1374)
ในขณะที่เขาฝึกบำเพ็ญตน อยู่ที่วัดพุนฮวังซา (Bunhwangsa, 분황사) ในเมืองคย็องจู (Gyeongju) ของจังหวัดคย็องซังเหนือ (คย็องซังบุกโด, Gyeongsangbuk-do) ซึ่งในขณะนั้นเกิดเหตุการณ์ภัยแล้ง ทำให้ยากลำบากต่อการเพาะปลูก และทำให้ผู้คนต้องทนทุกข์ทรมานจากความอดอยาก และรู้สึกไม่พอใจต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
อยู่มาวันหนึ่ง เทพแห่งท้องทะเลปรากฏในนิมิตร ของพระนาองซูโดซา (Monk Naong, 나옹수도사) และกล่าวว่าหากพวกเขาสร้างวัดที่ขอบของ ภูเขาพงแรซาน (Bongrae Mountain, 봉래산) และอธิษฐานที่นั่น ความยากลำบากเหล่านี้ทั้งหมดก็จะหายไป และจะได้รับความสุขกลับมา
หลังจากนั้น พระนาองซูโดซา (Monk Naong, 나옹수도사) ได้ไปเยี่ยมชมบริเวณ ซึ่งเป็นที่อยู่ของวัดในปัจจุบัน โดยเล็งเห็นว่ามีภูเขาอยู่ด้านหน้า และทะเลอยู่ด้านหลัง ซึ่งหมายความว่า ถ้าพวกเขากล่าวคำอธิษฐานในตอนเช้า พวกเขาจะได้รับคำตอบในตอนเย็น เขาสร้างวัด ณ ที่แห่งนี้ และตั้งชื่อวัดเป็นชื่อเดียวกับภูเขาว่า วัดพงแรซา (Bongraesa Temple, 봉래사)
โดยคำว่า “พงแร (Bongrae, 봉래)” หมายถึง บางสิ่งที่ลึกลับและบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นคำที่มาจากคำว่า “โพมุน (Bomun, 보문)” อันหมายถึง พลังที่แท้จริงและไร้ขีดจำกัด ของพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา หรือในภาษาเกาหลีเรียกว่า ควานเซอึมโพซัล (Gwanseumbosal, 관세음보살) ต่อมาในภายหลังวัดแห่งนี้ ได้ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น วัดโพมุน (Bomunsa Temple, 보문사)
น่าเสียดายที่วัดถูกทำลายบางส่วนด้วยไฟ ในระหว่างการรุกรานของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งต่อมาในช่วงต้นปี ค.ศ. 1930 พระอุนกังซูโดซา (Monk Ungang, 운강수도사) แห่งวัดทงโดซา (Tongdo Temple, 통도사) ได้ทำการบูรณะและสร้างวัดขึ้นมาใหม่ และผ่านการบูรณะหลายต่อหลายครั้ง โดยพระภิกษุอีกจำนวนหลายรูป ซึ่งได้ทำการฟื้นฟู และปรับปรุงด้วยความพิถีพิถัน เพื่อให้คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ และความงดงามแบบดั้งเดิม
จนกระทั่ง พระชุงอัมซูโดซา (Monk Jungam, 중암수도사) ได้ภาวนาว่าขอให้วัดแห่งนี้ เป็นสถานที่ทางพระธรรมะของพระพุทธเจ้าที่ยิ่งใหญ่ ด้วยการการอธิษฐาน 100 วัน และเขาได้นิมิตรเห็น พระพุทธรูปองค์ใหญ่ในชุดคลุมสีขาว ที่ด้านหลังขององค์พระมีมังกรที่แผ่ลำแสงห้าสี โดยหลังจากนั้นเขาได้เปลี่ยนชื่อของวัด ซึ่งเป็นชื่อของวัดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือ วัดแฮดงยงกุงซา (Haedong Yonggungsa Temple, 해동 용궁사)
เมื่อคุณเดินเท้าเข้าสู่วัดแห่งนี้ จากประตูซุ้มมังกรสีทองอร่าม เดินผ่านอุโมงค์ขนาดเล็ก ไปสู่บันไดหิน 108 ขั้นและโคมไฟหิน ซึ่งเป็นจุดสำหรับชมวิว และความงดงามของท้องทะเลสีฟ้าคราม ก่อนจะเดินต่อลงไปสู่บริเวณซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์สีดำ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนโขดหิน และมีท้องทะเลกว้างเป็นฉากหลัง
และเมื่อคุณเดินไปตามสะพานที่ทอดยาว และนำพาคุณเข้าสู่บริเวณภายในของวัด ซึ่งประกอบไปด้วยวิหารและศาลา ที่เรียงรายลดหลั่นกันไปตามโขดหิน โดยบริเวณด้านหน้าของวิหารหลัก มีเจดีย์หินสูง 3 ชั้น และสิงโต 4 ตัว เป็นสัญลักษณ์ของความสนุก, ความโกรธ, ความเศร้า และความสุข นอกจากนี้ภายในวัด ยังมีองค์เจ้าแม่กวนอิม, พระสังกัจจายน์องค์สีทองอร่าม, ศาลเจ้า และพุทธสถานอื่นๆ อีกหลายแห่ง
วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสวยงาม เหมาะสำหรับการมาชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และมักเป็นสถานที่ ซึ่งเหล่าพุทธศาสนิกชนในเกาหลี พากันมาอธิษฐานขอพรในวาระต่างๆ รวมไปถึงในวันขึ้นปีใหม่ ตามคำขวัญของวัดแห่งนี้ที่ว่า “อย่างน้อยหนึ่งในความปรารถนาของคุณ จะได้รับการตอบรับ ผ่านการสวดอ้อนวอนที่จริงใจของคุณ”
สำหรับในช่วงเดือนเมษายนนั้น วัดจะดูสดชื่นและสวยงามไปด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่ง จึงเป็นอีกสถานที่ยอดนิยมสำหรับการชมดอกซากุระเกาหลี (Korea Sakura) ที่มีชื่อเรียกว่า “พ็อก-กช (Beojkkoch, 벚꽃)” หรือเชอร์รี่บลอสซั่ม (Cherry Blossom)  นอกจากนี้ในวันสำคัญทางศาสนาพุทธ คือ วันวิสาขบูชา ซึ่งวันประสูติของพระพุทธเจ้านั้น วัดแห่งนี้จะถูกประดับประดาด้วยโคมไฟหลากสี ซึ่งดูสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง
Haedong Yonggungsa Temple (해동 용궁사)
ที่อยู่ 86 Yonggung-gil, Gijang-eup, Gijang, Busan, South Korea (부산광역시 기장군 기장읍 용궁길 86)
ข้อมูลเพิ่มเติม
สายด่วนการท่องเที่ยว 1330: + 82-2-1330 (เกาหลี, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีน)
ติดต่อสอบถาม +82-51-722-7744 (เกาหลี)
website: yongkungsa.or.kr (อังกฤษ, เกาหลี, ญี่ปุ่น, จีน)
เวลาทำการ 04:00 – 19:00
ค่าเข้าชม ฟรี
การเดินทาง

Haeundae Station (해운대역, Busan Metro Line 2) และออกทางออกที่ 7 จากนั้น เดินไปยังป้ายจอดรถประจำทางหน้าทางออก  เพื่อขึ้นรถบัส Bus No. 181 (31 นาที, 19 ป้ายจอด)
และลงที่ป้ายจอดรถประจำทาง ยงกุงซา กูกลิบซูซังฮวาฮักว็อน (Yonggungsa Guglibsusangwa Hag-won, Yonggungsa National Fisheries College Bus Stop, 용궁사국립수산과학원)
จากนั้นเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 400 เมตร เป็นทางเดินขึ้นและลงเนินเขา จะผ่านจุดขายของที่ระลึก และแผงลอยร้านอาหาร ก่อนจะเป็นทางเข้าสู่วัด
พอผ่านวงเวียนให้คอยสังเกต ป้ายชื่อวัดบนแผ่นหินขนาดใหญ่ ที่สามแยกไฟแดงทางขวามือ (ประมาณ 3-4 ป้ายรถเมล์นับจากวงเวียน) ลงที่ป้ายจอดนี้ * สำหรับขากลับให้ข้ามถนนมาขึ้นรถที่ป้ายรถประจำทางฝั่งตรงข้าม


ที่มา:https://www.jointtravel.com/south-korea-travel-information/haedong-yonggungsa-temple.html/

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2562

บล๊อกที่สามสิบสองของฉัน ไปอุทยานแห่งชาติซอรัคซานกันเถอะ

안녕하세요❗❗❗❗ สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปที่ ที่หนึ่ง เชื่อว่าใครหลายๆคนต้องอยากไปดื่มด่ำกับบรรยากาศแน่นอน นั่นคือ อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน

เที่ยว ซอรัคซาน ใบไม้เปลี่ยนสี ตามหาใบไม้แดงที่เกาหลี


      หนึ่งประเทศในเอเชียที่หลายคนไปแล้วไปอีกก็คือ เกาหลีใต้ นั่นเอง ถ้าถามว่าทำไมต้องไปเกาหลีหลายๆ รอบก็ตอบได้เลยว่า เพราะที่เกาหลีมีที่เที่ยวใหม่ๆ มากมาย อาหารก็อร่อย หล่งช้อปปิ้งก็เยอะ หรือใครเป็นแฟน K-Pop ก็ไปดูคอนเสิร์ตหรือตามรอยซีรีส์กันบ้างก็ว่ากันไป ซึ่งหนึ่งในฤดูที่นักท่องเที่ยวไป ทัวร์เกาหลี กันมาก ก็ต้องยกให้ ฤดูใบไม้ร่วง ที่ใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นส้ม แดง เหลือง ถ่ายรูปสวยสุดๆและวันนี้ มัชรูมทราเวล ก็จะพาไปเที่ยว หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติยอดฮิตอย่าง อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน ที่ได้ชื่อว่า อุทยานสี่ฤดู ไปดูกันว่า ซอรัคซาน ใบไม้เปลี่ยนสี จะสวยงามแค่ไหน…?!
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
ก่อนไปเที่ยว ซอรัคซาน ใบไม้เปลี่ยนสี เรามาเก็บข้อมูลกันก่อนค่ะ โดยปกติ ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี จะเริ่มประมาณปลายเดือนกันยายน แต่ช่วงที่ดีที่สุดในการชม แบบว่าแดงส้มพีคๆ เลยจะประมาณปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายนค่ะ เป็นช่วงเวลาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มา ทัวร์เกาหลี กันได้มากมายในแต่ละปี รวมถึงคนเกาหลีเองก็ออกมาเที่ยวในช่วงเวลานี้ด้วย
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน
อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (Seoraksan National Park) ตั้งอยู่ในเมืองซกโช จังหวัดคังวอนโด เป็นอุทยานขนาดใหญ่กินพื้นที่ถึง 354 ตารางกิโลเมตร และเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลี โดยที่นี่จะเป็นที่แรกๆ ในเกาหลีที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี ปกติจะเริ่มเปลี่ยนสีช่วงประมาณปลายเดือนกันยายน แต่จะช้าจะเร็วก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปีด้วยนะ และที่เห็นในรูปด้านบนก็คือ อนุสาวรีย์หมี สัญลักษณ์ของอุทยานนั่นเองค่ะ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน

วิวทิวทัศน์ธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติซอรัคซานนั้นสวยงามมากจนเรียกกันว่าเป็น สวิตเซอร์แลนด์ของเกาหลีเลยค่ะ ที่ด้านบนอุทยาน เราจะได้ชมทิวเขาหินแกรนิต ประกอบไปด้วย โอซอรัค เนซอรัค และนัมซอรัค เทือกเขาแนวนอกแนวใน และแนวใต้ นอกจากนี้อุทยานแห่งนี้ยังมีอีกชื่อเรียกก็คือ อุทยานสี่ฤดู เพราะมีธรรมชาติที่สวยงามมากในทุกฤดู สามารถมาเที่ยวกันได้ตลอดปีเลยค่ะ
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติซอรัคซาน อาจจะยุ่งยากเล็กน้อยเพราะจุดนี้ไม่มีรถไฟความเร็วสูงผ่านเลยค่ะ ต้องเดินทางด้วยรถบัสอย่างเดียว โดยจะนั่งรถบัสจากโซลไปลงที่เมืองซกโช แล้วต่อรถบัสไปลงที่อุทยานซอรัคซานอีกทีนึง จากโซลสามารถขึ้นรถบัสไปเมืองซกโซได้ที่ สถานีรถบัสดงโซล (Dong Seoul Bus Terminal) ไปลงที่สถานี Sokcho Intercity Bus Terminal จากนั้นขึ้นรถเมล์สาย 7 หรือ 7-1 ลงที่ป้ายสุดท้าย คือป้าย Seoraksan Sogongwon รวมเวลาการเดินทางจากโซลถึงอุทยานแห่งชาติซอรัคซานจะประมาณ 3-4 ชั่วโมง บางทีถ้าเป็นช่วงไฮซีซั่นอาจจะมีรถติดบวกกับรอขึ้นรถบัสนานบ้าง ต้องเผื่อเวลากันนิดนึงนะคะ แต่ถ้าไปกับทัวร์ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางเลยค่ะ เพราะในโปรแกรมจัดให้พร้อมหมดแล้ว

ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติซอรัคซาน คือ ผู้ใหญ่ 3,500 วอน (ประมาณ 100 บาท), เด็ก (อายุ 14-19) 1,000 วอน (ประมาณ 30 บาท), เด็ก (อายุ 8-13) 500 วอน (ประมาณ 15 บาท) สำหรับค่าเข้าชมนี้ส่วนใหญ่ถ้ามากับทัวร์จะรวมอยู่ในแพ็คเกจแล้วค่ะ

บล๊อกที่ห้าสิบของฉัน (บล๊อกสุดท้าย) ไปวัดยักชอนซากันเถอะ

สวัสดีค่ะ สำหรับใครที่ชอบเข้าวัดฟังธรรมนะคะ แนะนำวัดนี้เลยค่ะ วัดยักชอนซา วัดยักช็อนซา (Yakcheonsa Temple) Yakcheonsa Temple (약천사) ห...